
สิงโตออกล่าควายป่าบ่อยขึ้น เพราะ "มด"
กระแสเรื่องสิงโตตอนนี้มาแรงมาก แต่ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องแบบนั้นที่เกี่ยวกับการเลี้ยงสิงโต มันไม่ใช่ทางผมเลย ดังนั้นเราจะมาดูชีวิตของสิงโตในธรรมชาติกันดีกว่าครับอย่างที่ทุกคนทราบ สิงโตเป็นนักล่าสูงสุดของทุ่งหญ้าซาวันน่าในแอฟริกา เป็นสัตว์ที่ควบคุมประชากรสัตว์กินพืชหลายชนิดไม่ให้มีจำนวนมากเกินไป แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากชีวิตสิงโตถูกเปลี่ยนไป เมื่อการมาเยือนของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "มด"- แม้มดจะมีทั่วไปในแอฟริกา แต่มดชนิดดังกล่าวนี้ทำให้ระบบนิเวศทุ่งหญ้าซาวันน่าเปลี่ยนไปตลอดกาล มันคือ "มดหัวโต" (Big-headed ant - 𝘗𝘩𝘦𝘪𝘥𝘰𝘭𝘦 𝘮𝘦𝘨𝘢𝘤𝘦𝘱𝘩𝘢𝘭𝘢) มดรุกรานที่กระจายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย พวกมันบุกยึดเขตทุ่งหญ้าซาวันน่า จู่โจมมดอะคาเซีย (Acacia ant - 𝘊𝘳𝘦𝘮𝘢𝘵𝘰𝘨𝘢𝘴𝘵𝘦𝘳 𝘴𝘱.) ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้แล้วยึดอาณาเขต- ซึ่งมดอะคาเซียเป็นมดที่อาศัยบนต้นไม้ต่างๆในทุ่งหญ้าซาวันน่า พอมดอะคาเซียโดนมดหัวโตแย่งถิ่น ต้นอะคาเซียก็ไร้ผู้เตือนภัย เมื่อช้างมาหาอาหาร แทนที่จะโดนมดเตือนไล่ออกไป กลายเป็นช้างโค่นลงได้สบายๆจนต้นไม้ในทุ่งหญ้าโดนโค่นง่ายลง ทำให้เป็นพื้นที่หญ้าโล่ง แล้วก็ส่งผลต่อสิงโต- สิงโตบางฝูงในทุ่งหญ้าซาวันน่าใช้แนวต้นไม้เป็นที่กำบังเพิ่มโอกาสในการล่าม้าลายและแอนทีโลป แต่เมื่อต้นไม้น้อยลง พวกม้าลายและแอนทีโลปเห็นสิงโตง่ายขึ้น จึงทำให้เปอร์เซ็นต์การล่าพวกนี้ลดต่ำลงจาก 62% เป็น 22% และทำให้สิงโตต้องไปล่าเหยื่ออื่นที่ใหญ่กว่านั่นก็คือ ควายป่าแอฟริกา- นักวิจัยในทุ่งหญ้าซาวันน่าในเคนย่าพบว่า สิงโตฝูงที่พวกเขาศึกษา เปลี่ยนพฤติกรรมจากที่พวกมันไม่เคยล่าควายป่าเลย กลายเป็นว่าควายป่าคือเหยื่อที่สิงโตล่ามากที่สุด จาก 0% เป็น 42% ของเหยื่อที่สิงโตกิน บ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและระบบนิเวศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้สรุปเป็นสายโซ่ก็ประมาณนี้ครับStart >> มดต่างถิ่นบุกรุก >> มดอะคาเซียโดนมดต่างถิ่นคุกคาม >> ต้นอะคาเซียและต้นไม้ต่างๆไร้การป้องกันจากมด >> ช้างสามารถโค่นต้นไม้ได้โดยไม่โดนมดเตือน >> สิงโตล่าม้าลายไม่ได้เพราะแนวกำบังน้อยลง >> สิงโตเลยออกล่าควายป่ามากขึ้นเพื่อความอยู่รอด !แหล่งข้อมูลอ้างอิงDisruption of an ant-plant mutualism shapes interactions between lions and their primary preyhttps://www.science.org/doi/10.1126/science.adg1464
เขียนโดย BKwildlifemaster - สุดยอดแฟนพันธุ์แท้สัตว์เลื้อยคลานปี 2006
โพสต์เมื่อ 05 ก.พ. 25
อ่าน 0 ครั้ง