เพาะกระต่ายให้ได้สีตรงใจ!! ไม่ยาก ถ้าเข้าใจรหัสพันธุกรรมยีนสีกระต่าย
เคยได้ยินไหม "กระต่ายสีนั้นทำยาก กระต่ายสีนี้มีน้อย"ถ้าเป็นมือใหม่จะได้ยินบ่อยจากบรีดเดอร์ที่มีความเข้าใจเรื่องยีนสีไม่ดีนักแต่จริงๆแล้วสีทำยาก อาจจะมาจากสาเหตุคือกระต่ายที่ฟาร์มนั้นๆไม่มียีนสีนั้นหรือมีน้อย ทำให้สีนั้นๆมีให้เห็นนานๆทีหรือไม่มีเลยสีหายาก อาจจะมาจากสาเหตุคือสีนี้ในกระต่ายสายพันธุ์นั้นยังไม่ถูกยืนยันจากสมาคมที่จัดงานประกวดทำให้ประกวดไม่ได้ ฟาร์มเลยไม่นิยมเพาะให้ได้สีนี้กันแต่ถ้าเราอยากทำสีนั้นๆล่ะ??? เรื่องสำคัญที่ควรรู้และจะไม่มีสีไหนทำยากอีกเลยก็คือ รหัสพันธุกรรมสีกระต่ายยยยย!!!!!กระต่ายมีสีขนหลากหลาย เพราะมียีนควบคุมสีขนที่ทำงานร่วมกัน โดยรหัสพันธุกรรมของสีกระต่ายถูกกำหนดโดย "อัลลีล (Alleles)" หรือหน่วยยีนที่ได้รับจากพ่อแม่ เราจะมาทำความเข้าใจว่าระบบนี้ทำงานยังไงแบบง่าย ๆ1. รหัสพันธุกรรมสีกระต่าย (Rabbit Color Genetics) คืออะไร?กระต่ายมี 5 ตำแหน่งยีนหลัก (Loci, Locus) ที่ควบคุมสีขน ได้แก่ตำแหน่งยีนอักษรย่อควบคุมเรื่องอะไร?A Locus A, at, a คือ ลายขนพื้นฐาน เช่น Agouti, Otter, SelfB Locus B, b คือ สีดำ (Black) หรือ สีน้ำตาล (Chocolate)C Locus C, cchd, cchl, ch, c คือ ความเข้มของสี เช่น Albino, HimalayanD Locus D, d คือ สีเข้ม (Dense) หรือ สีซีดจาง (Dilute)E Locus Es, E, ej, e คือ การกระจายของเม็ดสี เช่น สี Solid หรือ Harlequin2. วิธีการทำงานของยีนสีกระต่าย (เข้าใจง่าย!)🐰 กระต่ายได้รับยีนจากพ่อและแม่อย่างละ 1 ตัว (รวมเป็นคู่) เช่น ถ้าแม่มียีน B B และพ่อมียีน B b ลูกกระต่ายจะได้ยีน B หนึ่งตัวจากพ่อและ B หรือ b จากแม่🐰 บางยีนเป็น "เด่น (Dominant)" และบางยีนเป็น "ด้อย (Recessive)"ถ้ามียีนเด่นอยู่ 1 ตัว มันจะครอบยีนด้อย เช่น B (ดำ) > b (น้ำตาล) ดังนั้น กระต่ายที่มี Bb ก็ยังคงเป็นสีดำกระต่ายจะแสดงลักษณะของยีนด้อยก็ต่อเมื่อได้รับยีนด้อยทั้งสองตัว เช่น bb = น้ำตาล🐰 ยีนหลายตำแหน่งทำงานร่วมกันเช่น ถ้ากระต่ายมี A_ B_ C_ D_ E_ (ตัวอักษรใหญ่แปลว่ายีนเด่น) มันจะเป็นกระต่ายสี Agouti ธรรมชาติ3. ระบบสีหลักของกระต่าย🐰 อธิบายรหัสพันธุกรรมกลุ่ม A, B, C, D, และ E ของกระต่าย (เข้าใจง่าย!)รหัสพันธุกรรมของสีกระต่ายถูกควบคุมโดย 5 ตำแหน่งหลัก (Loci, Locus) ได้แก่✅ A Locus → ควบคุมลายขน✅ B Locus → ควบคุมเฉดสีดำ/น้ำตาล✅ C Locus → ควบคุมความเข้มของสี✅ D Locus → ควบคุมความเข้ม/ซีดของสี✅ E Locus → ควบคุมการกระจายของเม็ดสีมาดูกันทีละตำแหน่งว่ามันทำงานยังไง!1. A Locus (ยีนควบคุมลายขน) → กำหนดว่ากระต่ายจะเป็นลาย Agouti หรือสีทึบA Locus ควบคุม การกระจายของเม็ดสีในเส้นขน ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่ากระต่ายจะมีลายหรือไม่ยีนลักษณะสีที่ได้A (Agouti)มีลาย เช่น Chestnut, Opalat (Tan Pattern)มีสีท้องอ่อน เช่น Otter, Martena (Self)สีเดียวทั้งตัว เช่น Black, Blue📌 กฎของ A Locus:A_ → มีลาย เช่น Agouti (Chestnut, Chinchilla)at at หรือ at a → มีสีท้องอ่อน เช่น Ottera a → สีพื้นเดียว เช่น Black, Chocolate🔹 ตัวอย่างสีที่ได้:A_B_C_D_E_ → Chestnut Agoutiat_B_C_D_E_ → Black OtteraaB_C_D_E_ → Black🟤 2. B Locus (ยีนสีดำ-ช็อกโกแลต) → กำหนดเฉดสีหลักของขนB Locus ควบคุมว่าสีของขนจะเป็น สีดำ (Black-based) หรือสีน้ำตาล (Chocolate-based)ยีนลักษณะสีที่ได้B (Dominant - เด่น)ให้สีดำ (Black)b (Recessive - ด้อย)ให้สีน้ำตาล (Chocolate)📌 กฎของ B Locus:BB หรือ Bb → กระต่ายจะเป็น สีดำbb → กระต่ายจะเป็น สีน้ำตาล (Chocolate)🔹 ตัวอย่างสีที่ได้:A_B_C_D_E_ → Chestnut AgoutiA_bbC_D_E_ → Chocolate AgoutiaaB_C_D_E_ → BlackaabbC_D_E_ → Chocolate⚪ 3. C Locus (ยีนควบคุมความเข้มของสี) → กำหนดว่าเม็ดสีจะแสดงออกมากแค่ไหนC Locus ควบคุมว่ากระต่ายจะมีสีขนเข้มหรือซีดจางลงยีนลักษณะสีที่ได้C (Dominant) เม็ดสีเต็ม ทำให้ได้สีขนปกติcchd (Chinchilla Dark) ทำให้สีขนซีดลง เช่น Chinchillacchl (Chinchilla Light) ทำให้เกิดสี Siamese หรือ Sablech (Himalayan) สีอ่อนมาก ยกเว้นที่หู จมูก หาง และเท้าc (Albino) ไม่มีเม็ดสีเลย กระต่ายจะเป็นสีขาวล้วนตาแดง📌 กฎของ C Locus:C_ → สีปกติcchd_ → Chinchillacchl_ → Siamesech_ → Himalayancc → Albino🔹 ตัวอย่างสีที่ได้:A_B_C_D_E_ → Chestnut AgoutiA_B_cchd_D_E_ → ChinchillaaaB_ccD_E_ → Red Eyed White🔵 4. D Locus (ยีนควบคุมความเข้ม-จางของสี) → กำหนดว่าสีจะซีดลงหรือไม่D Locus ควบคุมว่าเม็ดสีจะมีความเข้มหรือซีดลงยีนลักษณะสีที่ได้D (Dominant) สีปกติ (Dense)d (Recessive) สีซีดลง (Dilute)📌 กฎของ D Locus:D_ → สีเข้มdd → สีซีด (Dilute)🔹 ตัวอย่างสีที่ได้:aaB_C_D_E_ → BlackaaB_C_ddE_ → BlueaabbC_D_E_ → ChocolateaabbC_ddE_ → Lilac🟠 5. E Locus (ยีนควบคุมการกระจายของเม็ดสี) → กำหนดว่ากระต่ายจะเป็นสีทึบหรือมีลายE Locus ควบคุมว่ากระต่ายจะมีสีแบบ Solid (สีเดียวทั้งตัว) หรือมีลวดลาย เช่น Harlequin หรือ Tortoiseshellยีนลักษณะสีที่ได้Es ( Steel Dominant) สีปลายขนเป็นเขม่า (Steel Color)E (Dominant)สีทึบ (Solid Color)ej (Harlequin)ทำให้เกิดลายสองสี (เช่น Harlequin)e (Recessive)ทำให้ขนมีสีครีม/ส้ม เช่น Tortoiseshell📌 กฎของ E Locus:Es_ → สีสตีลE_ → สีปกติejej หรือ eje → ลาย Harlequinee → สีครีม หรือ Tortoiseshell🔹 ตัวอย่างสีที่ได้:aaB_C_D_E_ → BlackaaB_C_D_ejej → Black HarlequinaaB_C_D_ee → Black Tortoiseshell🌈 สรุปตารางรหัสพันธุกรรมแต่ละตำแหน่งตำแหน่งยีนเด่นยีนด้อยควบคุมอะไร?A (ลายขน) A = มีลาย a = สีพื้น / ลวดลายB (สีขนหลัก) B = ดำ b = น้ำตาล / เฉดสีหลักC (เข้ม-ซีด) C = ปกติ c = Albino / ระดับสีD (เข้ม-จาง) D = ปกติ d = สีจาง / ความเข้มของสีE (การกระจายสี) E = สีปกติ e = สีครีม / ลายขน4. ตัวอย่างการผสมพันธุ์กระต่ายเพื่อสร้างสีที่ต้องการ💡 ตัวอย่าง: ผสมกระต่ายสีดำกับสี Chocolateสีดำมีรหัส aaB_C_D_E_สี Chocolate มีรหัส aabbC_D_E_📌 ลูกที่ได้จะเป็นอะไร?ถ้าแม่เป็น BB และพ่อเป็น bb ลูกที่ได้จะเป็น Bb (ยังคงเป็นสีดำ เพราะ B เป็นยีนเด่น)ถ้าผสมกันต่อไป ลูกบางตัวอาจได้ bb และกลายเป็นสี Chocolate💡 ตัวอย่าง: ผสมกระต่ายสีเทากับสีน้ำตาลอ่อนสีน้ำตาลอ่อน (Lilac) มีรหัส aabbC_ddE_สีเทา (Blue) มีรหัส aaB_C_ddE_📌 ลูกที่ได้จะเป็นอะไร?ถ้าพ่อแม่มี bb และ Bb ลูกที่ได้อาจมีทั้ง Lilac และ Blue5. สรุปแบบเข้าใจง่าย✔️ A Locus → ควบคุมว่ากระต่ายจะมีลายไหม (Agouti, Otter, หรือสีเดียว)✔️ B Locus → ควบคุมว่าสีจะเป็นสีดำหรือช็อกโกแลต✔️ C Locus → ควบคุมความเข้มของสี เช่น Albino หรือ Himalayan✔️ D Locus → ควบคุมว่าสีจะเข้ม (Dense) หรืออ่อนลง (Dilute)✔️ E Locus → ควบคุมการกระจายของสี เช่น Harlequin หรือ Solid🐰 เคล็ดลับสำหรับการเลือกคู่ผสมพันธุ์ให้ได้สีที่ต้องการ✅ ใช้พ่อแม่ที่มีรหัสพันธุกรรมตรงกับสีที่ต้องการ✅ ศึกษาว่ายีนไหนเป็นเด่นหรือด้อย เพื่อคาดเดาสีของลูกกระต่าย✅ หลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์ที่มียีนด้อยซ้ำกันมากเกินไป เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพ🐰 ตารางแบบฉบับสำเร็จรูป รหัสสีกระต่าย*** Agouti = Chestnut ***_____________________________________เด็กๆพร้อมย้ายบ้านจากฟาร์มของเราสามารถเข้าชมได้ที่ >>> https://www.repttown.com/stores/s/6208f8a6627da1804d2bf678?store=trueบทความอื่นๆเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงกระต่ายและสัตว์ฟันแทะอื่นๆ >>> https://tales.repttown.com/?search=author:Anixoticเขียนโดย Theme Anixotic และ CEO & Co-founder RepttownCreditWildriver Rabbitry, Genetics 101The Nature Trail. Rabbit Color Genotypes ChartMink Hollow Farm. An Illustrated Guide to Rabbit Coat Colours*Dominik Czernia, PhD. (2023). Rabbit Color Calculatorhttps://wabbitwiki.com/wiki/Rabbit_colorsThe following are some miscellaneous breed-specific color guides from various rabbitries:LionheadRabbit.com. Varieties and Colors (Lionhead)Blossom Acres Rabbitry. Lionhead Color ID (Lionhead)Spring Creek Gems. Spring Creek Color Breeding Program (Netherland Dwarf)Cottonwood Farms and Kokopelli Acre. Color crossing rules for Mini Rex rabbits (Mini Rex)Wildriver RabbitryMini Rex Color GuideShaded Mini Rex Color Guide
เขียนโดย Anixotic
โพสต์เมื่อ 12 ก.พ. 25
อ่าน 46 ครั้ง