"เมื่องูเคยมีขา" วิวัฒนาการของสัตว์เลื้อยคลานสุดมหัศจรรย์
"งู" คำๆเดียวที่สามารถทำให้ใครหลายคนขนลุกชูชันได้ไม่น้อยครับ แต่เราอาจจะมองข้ามมันไปว่า งูนั้นเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการมายาวไกลมาก มันไม่ใช่สัตว์ที่เพิ่งขึ้นในยุคใหม่เลยครับ แต่พวกมันถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้แล้วอยู่อาศัยเคียงข้างกับไดโนเสาร์และสัตว์ดึกดำบรรพ์มากมาย
แล้วเหตุใดเล่า งูถึงต้องละทิ้งขาตัวเองไป ทั้งๆที่มันเป็นสัตว์เลื้อยคลานเช่นเดียวกับกิ้งก่าและจระเข้ ? คำตอบนั้นเราต้องย้อนเวลากลับไปดูในช่วงยุครุ่งเรืองของไดโนเสาร์ผ่านฟอสซิลกันครับ
จุดเริ่มต้น
ฟอสซิลของงูที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมีอายุเมื่อ 90 ล้านปีก่อน แต่นักบรรพชีวินวิทยาได้ขุดพบฟอสซิลของสิ่งที่เรียกว่า "รอยต่อแห่งวิวัฒนาการที่หายไป" ในประเทศบราซิล เมื่อพวกเขาพบฟอสซิลของสัตว์เลื้อยคลานที่มีความคล้ายคลึงกับงูมากที่สุด แต่ว่า มันมีขาครับ !
มันมีชื่อว่า "เตตระโพโดพริส" (𝘛𝘦𝘵𝘳𝘢𝘱𝘰𝘥𝘰𝘱𝘩𝘪𝘴) ซึ่งมีความหมายของชื่อว่า "งูที่มีสี่ขา" สัตว์เลื้อยคลานที่มีลำตัวและหัวเหมือนงู ไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของงูแต่อย่างใดเพียงแค่ญาติใกล้ชิดเฉยๆ แต่กลับมีขายื่นออกมาสี่ข้างเป็นระยางค์เดินเหมือนกับกิ้งก่า ลำตัวยาว 30 เซนติเมตร ซึ่งดูจากรูปทรงของลำตัวและขนาดของขาแล้ว บ่งบอกว่า ญาติสนิทของงูตัวนี้เริ่มจะปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวจากการมีขาไปใช้ลำตัวในการขยับแทน
ในทางพันธุกรรมและการอนุกรมวิธาน งูนั้นเป็นสัตว์ที่มีความสนิทกับกิ้บก่ามาก จนทำให้จัดอยู่ในอันดับเดียวกันคือ Order Squamata โดยงูนั้นจะแยกไปอยู่ในสายวิวัฒนาการ จึงทำให้รูปร่างขาของงูไปทางกิ้งก่า
มีขาไม่ดีอย่างไรกัน ?
แล้วทุกคนสงสัยกันอีกว่า งูมีขาไม่ดีตรงไหนถึงต้องหดขาหายไปจนหมด ทั้งนี้นักบรรพชีวินวิทยาก็ให้คำตอบไม่ชัดเจน แต่ในทางสัตววิทยาแล้ว การไม่มีขาของงูทำให้งูสามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วขึ้น ทำให้สามารถมุดเข้าซอกหลีบตามจุดต่างๆที่สัตว์อื่นเข้าไม่ถึงเพื่อหลบพักผ่อนหรือวางไข่ รวมไปถึงยังสามารถใช้ลำตัวรับรู้ภัยอันตรายได้ดีกว่าการใช้หูฟังเสียงอีก ซึ่งงูก็ไม่มีหูด้วยเช่นกัน
ทีนี้มีคำถามสำคัญตามมาอีกว่า แล้วงูหดขาคู่ไหนก่อนกัน ? คำตอบคือ ขาคู่หน้าหดไปก่อนครับ เหตุผลนั้นถ้าทุกคนเคยจำภาพงูเวลาเลื้อยอยู่บนพื้นดิน งูค่อนข้างจะมีส่วนหัวและลำตัวแนบติดพื้นกัน ซึ่งพอไม่มีขาหน้า ประสาทรับรู้ที่ส่งผ่านไปยังสยองจะสามารถรับรู้ได้ทางลำตัวผ่านไปยังกระดูกสันโดยตรงได้เลย ทำให้รู้อันตรายเร็วกว่า
แล้วยิ่งงูอยู่มาตั้งแต่ช่วงที่มีไดโนเสาร์ด้วย การรับรู้ว่าแรงสั่นสะเทือนของไดโนเสาร์เดินยังดีกว่ามารู้ตัวตอนที่โดนเหยียบหรือว่าโดนจับกินจากไดโนเสาร์ขนาดเล็ก อย่างเช่นงูดึกดำบรรพ์สกุลหนึ่งที่ชื่อว่า "นาจาซ" (𝘕𝘢𝘫𝘢𝘴𝘩) เป็นงูที่มีชีวิตเมื่อ 90 ล้านปีก่อนในยุคครีเตเชียสตอนปลาย มีหลักฐานการหดไปของขาหน้าแต่ยังมีขาหลังอยู่ ซึ่งฟอสซิลติ่งขาหน้ายังพบอยู่ด้านในลำตัว สิ่งที่นาจาซต่างจากเตตระโพโดพริสก็คือ กระดูกซี่โครงที่มีรูปร่างให้เหมาะแก่การขยับตัวไปข้างหน้าด้วยกล้ามเนื้อลำตัว ซึ่งจะเป็นผลให้งูใช้ลำตัวขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ด้วยไม่ต้องใช้ขาขยับตัวอีกอีกต่อไป
แล้วนาจาซเหลือขาหลังเอาไว้ทำอะไร ? ซึ่งถ้ามามองดูในด้านการใช้เพื่อพฤติกรรมจำเป็นต่อชีวิตประจำวันแล้ว มันอาจเอาไว้สำหรับช่วยในการล็อคตัวเมียขณะผสมพันธุ์กันก็เป็นได้ครับ เพราะขณะสัตว์เลื้อยคลานผสมพันธุ์กันนั้น ขาหลังจะช่วยในการขยับส่วนอวัยวะเพศให้สอดใส่ได้ แต่ต่อมาเมื่องูหดขาหลังออก งูก็วิวัฒนาการอวัยวะเพศให้แตกออกเป็นสองข้างเพื่อใช้ผสมแบบใช้ข้างใดข้างหนึ่งแทน แต่งูบางจำพวกอย่างงูกลุ่มไพธ่อน (Python) และ (Boa) ยังคงมีติ่งของระยางค์ขาเล็กช่วงท้ายลำตัว เอาไว้สะกิดขณะการผสมพันธุ์กับตัวเมีย
เมื่อขาหดไป
ฟอสซิลของงูที่ไม่ปรากฎขาทั้งสี่ข้างเก่าแก่ที่สุดเป็นงูดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่า "ไดนิไลเซีย" (𝘋𝘪𝘯𝘪𝘭𝘺𝘴𝘪𝘢) เป็นงูขนาดกลางประมาณงูหลามบอล (Ball python)และงูหลามวัยเด็ก ที่สามารถยาวได้ 1-3 เมตร ที่มีชีวิตเมื่อ 85 ล้านปีก่อนในอเมริกาใต้ โดยสิ่งที่พวกเขาพบจากฟอสซิลงูดึกดำบรรพ์ตัวนี้คือ ขาหดไปจนหมดแล้ว
ประกอบการพบว่าขนาดของกล่องสมองภายในมีขนาดกว้างขึ้น โดยเฉพาะส่วนของสมองส่วนท้ายที่ใช้ในการควบคุมลำตัวและการเคลื่อนที่ กระดูกหูชั้นกลางก็มีการเจริญให้สามารถรับรู้แรงสะเทือนได้ดีขึ้นแบบงูปัจจุบันทั่วไป ยิ่งสนับสนุนเหตุผลของการหดขาไปของงูอีกด้วย
"จากมีขา สู่การไม่มีขา"
ทำให้งูเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกกว่า 3,800 ชนิด มีหลายรูปร่างทั้งใหญ่และเล็ก พวกที่สวยงามและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม และก็ยังมีพวกที่มีพิษเพื่อการล่าและป้องกันตัว ทั้งนี้ก็เป็นผลวิถีแห่งชีวิตชักนำให้งูปรับตัวและดำรงชีวิตอยู่จนทุกวันนี้มาตั้งแต่ยุคที่พวกไดโนเสาร์อาศัยอยู่กันแล้ว
Reference
Fossil Solves Mystery of How Snakes Lost Their Legs
https://www.amnh.org/explore/news-blogs/how-snakes-lost-legs
How Snakes Lost Their Legs
https://www.npr.org/.../498575639/how-snakes-lost-their-legs
David M. Martill; Helmut Tischlinger; Nicholas R. Longrich (2015). "A four-legged snake from the Early Cretaceous of Gondwana"
Apesteguía, S.; Zaher, H. (2006). "A Cretaceous terrestrial snake with robust hindlimbs and a sacrum".