Rufus Modifiers และ Wideband Gene คืออะไร?
Rufus Modifiers และ Wideband Gene เป็นปัจจัยทางพันธุกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดสีขนของกระต่าย โดยเฉพาะในสายพันธุ์ที่มีสีแดง (Red) ส้ม (Orange) หรือฟอว์น (Fawn) ทั้งสองยีนนี้ทำงานร่วมกันเพื่อปรับเฉดสีและการกระจายตัวของเม็ดสีในขนของกระต่าย
Rufus Modifiers คืออะไร?
Rufus Modifiers เป็นชุดของยีนที่ส่งผลต่อระดับของเม็ดสี phaeomelanin (เม็ดสีเหลือง-แดง) ในขนของกระต่าย ยีนเหล่านี้ไม่ได้เป็นยีนเดี่ยว แต่เป็นกลุ่มของยีนหลายตัวที่ควบคุมความเข้มหรืออ่อนของสีแดง
ลักษณะทางพันธุกรรมของ Rufus Modifiers:
ลักษณะทางพันธุกรรม: Rufus Modifiers ไม่ใช่ยีนเดี่ยวที่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่เป็นกลุ่มของ polygenes หรือ modifier genes ที่ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความเข้มของเม็ดสีเหลือง-แดง (phaeomelanin) ในขนของกระต่าย
การแสดงออก: เนื่องจากเป็น polygenic การแสดงออกของ Rufus Modifiers จึงไม่เป็นแบบเด่นหรือด้อยตามกฎของ Mendel แต่เป็นการเพิ่มหรือลดระดับของสีแดงในขน ขึ้นอยู่กับจำนวนและความเข้มข้นของ modifiers ที่มีอยู่
หน้าที่ของ Rufus Modifiers:
เพิ่มความเข้มของสีแดงในขน
ทำให้สีของกระต่ายดูสดใสขึ้น เช่น จากสีส้มอ่อนเป็นสีแดงเข้ม
พบได้ในกระต่ายที่มีสี Orange, Red และ Fawn
ระดับของ Rufus Modifiers:
ระดับต่ำ: สีขนออกไปทางเหลืองหรือส้มอ่อน
ระดับสูง: สีขนออกไปทางแดงเข้ม (พบในกระต่าย Red เช่น Thrianta หรือ Red New Zealand)
Wideband Gene คืออะไร?
Wideband Gene (W/w) เป็นยีนที่มีอิทธิพลต่อการกระจายของเม็ดสีในขน โดยเฉพาะในกระต่ายที่มีลวดลายแบบ Agouti (A_) และสีแดง-ส้ม ช่วยให้สีขนดูเรียบเนียน ไม่มีการแซมของสีดำหรือสีเข้ม
ลักษณะทางพันธุกรรมของ Wideband Gene:
ลักษณะทางพันธุกรรม: Wideband Gene ถูกระบุด้วยสัญลักษณ์ W และ w โดยที่ w เป็นยีนด้อย ซึ่งหมายความว่ากระต่ายต้องได้รับยีน w จากทั้งพ่อและแม่ (genotype: ww) เพื่อให้แสดงลักษณะ wideband อย่างเต็มที่
การแสดงออก: ยีน Wideband มีผลต่อการขยายความกว้างของแถบสีในขนของกระต่ายที่มีลวดลายแบบ Agouti ทำให้สีขนดูสว่างขึ้นและลดการแซมของสีดำ (ticking) อย่างไรก็ตาม ผลของยีนนี้จะเห็นได้ชัดเจนในกระต่ายที่มีลวดลาย Agouti และอาจไม่แสดงผลในกระต่ายที่มีลวดลายอื่น
หน้าที่ของ Wideband Gene:
ลดการเกิดสีแซมดำ (ticking) ในขนของกระต่าย
ขยายพื้นที่ของเม็ดสีเหลือง-แดง ทำให้สีขนดูสดขึ้น
พบมากในกระต่ายที่มีสี Red, Orange และ Harlequin
ยีน Wideband (W/w) ทำงานอย่างไร?
WW หรือ Ww: กระต่ายอาจมีสีขนแซมหรือมีลวดลายชัดขึ้น
ww: ขนจะเป็นสีเดียวตลอดทั้งเส้น (ไม่มี ticking) ทำให้กระต่ายมีสีแดงสด เช่นใน Thrianta
Rufus Modifiers และ Wideband Gene ทำงานร่วมกันอย่างไร?
กระต่ายสี Red หรือ Orange ที่มีสีขนเข้มและสดใส มักต้องมีการทำงานร่วมกันของ Rufus Modifiers สูง และ ww (Wideband แบบด้อย) เช่น:
ตัวอย่างชุดยีนและสีขนที่เกิดขึ้น:
ee ww + Rufus Modifiers สูง → กระต่ายสีแดงเข้ม (เช่น Thrianta)
ee Ww + Rufus Modifiers ปานกลาง → กระต่ายสีส้ม (เช่น Orange Holland Lop)
Ee WW + Rufus Modifiers ต่ำ → สีขนอ่อนกว่าและมีสีแซมดำ
A_ ww ee + Rufus Modifiers สูง → กระต่ายสีแดงแบบ Agouti (Fawn หรือ Red Agouti)
A_ WW Ee + Rufus Modifiers ต่ำ → กระต่ายสี Agouti ธรรมดา (Chestnut)
หมายเหตุ: ชุดยีนเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างและอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อสีขนของกระต่ายด้วย
ตัวอย่างชุดยีนและสีขนที่เกิดขึ้น
A_ B_ C_ D_ ee ww: กระต่ายสีแดง (Red) ที่มีสีขนสม่ำเสมอและไม่มีการแซมของสีดำ
A_ B_ C_ D_ ee Ww: กระต่ายสีส้ม (Orange) ที่อาจมีการแซมของสีดำเล็กน้อย
A_ B_ C_ D_ Ee ww: กระต่ายสีเชสนัท (Chestnut) ที่มีสีขนอ่อนกว่าและอาจมีการแซมของสีดำเพียงเล็กน้อย
สรุป
Rufus Modifiers และ Wideband Gene เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดสีขนของกระต่าย โดย Rufus Modifiers ควบคุมความเข้มหรืออ่อนของสีแดง ส่วน Wideband Gene ควบคุมการกระจายตัวของเม็ดสี การทำงานร่วมกันของทั้งสองยีนนี้ช่วยให้กระต่ายมีสีแดง-ส้มที่สวยงามและสม่ำเสมอ ดังนั้น หากต้องการกระต่ายสีแดงเข้ม ต้องมี ee ww + Rufus Modifiers สูง เพื่อให้สีขนออกมาตามต้องการ
หากคุณกำลังเพาะพันธุ์กระต่ายที่มีสีขนสวยงาม การเข้าใจเรื่อง Rufus Modifiers และ Wideband Gene จะช่วยให้คุณคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น!
เด็กๆพร้อมย้ายบ้านจากฟาร์มของเราสามารถเข้าชมได้ที่ >>> https://www.repttown.com/stores/s/6208f8a6627da1804d2bf678?store=true
บทความอื่นๆเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงกระต่ายและสัตว์ฟันแทะอื่นๆ >>> https://tales.repttown.com/?search=author:Anixotic
เขียนโดย Theme Anixotic และ CEO & Co-founder Repttown