กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่มีทั้งความน่ารักและความหลากหลายของสายพันธุ์ หากคุณกำลังมองหากระต่ายที่มีคุณภาพดี การเลือกซื้อตามฟาร์มระบบปิดก็ช่วยให้คุณมีโอกาสได้รับกระต่ายที่มีสุขภาพดีมากขึ้น หรือ ให้ดีกว่านั้นก็เลือกซื้อจากฟาร์มที่มีการพัฒนาตามมาตราฐานสายพันธุ์ ซึ่งในไทยจะนิยมเพาะตาม มาตรฐานของ American Rabbit Breeders Association (ARBA) แต่ก็มีบ้างที่เพาะตาม มาตราฐานของยุโรป
ถ้าหากคุณยังไม่เข้าใจเรื่องเกรดของกระต่าย แนะนำให้อ่านบทความนี้ก่อน >>> เกรดของกระต่าย??? ทำไมกระต่ายถึงมีหลายเกรด
***แต่ละฟาร์ม หน้าตาและรูปร่างของกระต่ายจะไม่เหมือนกันดังนั้นก่อนซื้อกระต่ายแนะนำให้เลือกดูจากหลายๆฟาร์มก่อนหรือดูที่งานประกวด***
1. ทำความเข้าใจกับมาตรฐาน ARBA
ARBA (American Rabbit Breeders Association) เป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานสำหรับกระต่ายแต่ละสายพันธุ์ โดยครอบคลุมลักษณะสำคัญ เช่น ขนาด รูปร่าง สี และโครงสร้างของร่างกาย
✅ ปัจจุบัน ARBA รับรองมากกว่า 50 สายพันธุ์ แบ่งตามลักษณะขนาดและรูปร่าง เช่น
สายพันธุ์ขนาดเล็ก (Small Breeds): Netherland Dwarf, Holland Lop
สายพันธุ์ขนาดกลาง (Medium Breeds): Mini Rex, Dutch
สายพันธุ์ขนาดใหญ่ (Large Breeds): Flemish Giant, French Lop
2. การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม
ก่อนเลือกซื้อกระต่าย ควรพิจารณาว่าสายพันธุ์ไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ขนาดตัวอย่างสายพันธุ์น้ำหนักโดยเฉลี่ยนิสัย
เล็ก (1-2 กก.) Netherland Dwarf, Holland Lop 0.9 - 2 กก.ขี้เล่น, ซุกซน
กลาง (2-4 กก.) Mini Rex, Dutch, English Spot 2 - 4 กก.อ่อนโยน, เป็นมิตร
ใหญ่ (4 กก. ขึ้นไป) Flemish Giant, French Lop 4 - 6 กก. ขึ้นไปสุขุม, เชื่อง
✳ หากต้องการกระต่ายที่เลี้ยงง่าย – Mini Rex หรือ Holland Lop เป็นตัวเลือกที่ดี
✳ หากต้องการกระต่ายขนาดใหญ่และสุขุม – Flemish Giant อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
3. วิธีตรวจสอบสุขภาพและคุณภาพของกระต่าย
เมื่อตัดสินใจเลือกซื้อกระต่าย ควรตรวจสอบลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมตามมาตรฐาน ARBA
✅ ลักษณะกระต่ายที่ดีตามมาตรฐาน ARBA
✔ ขนเงางามและสะอาด – ไม่ควรมีแผล รอยกัด หรือขนร่วงเป็นหย่อม ๆ
✔ หูสะอาด ไม่มีไรหรืออาการอักเสบ – กระต่ายควรมีหูที่สะอาดและตั้งตรง (ยกเว้นสายพันธุ์ Lop ที่มีหูตก)
✔ ดวงตาสดใส ไม่มีขี้ตาหรืออาการบวมแดง – สะท้อนถึงสุขภาพที่แข็งแรง
✔ ฟันไม่ยาวเกินไป – ฟันควรเรียงตัวสม่ำเสมอ ไม่มีอาการฟันผิดรูป
✔ โครงสร้างกระดูกสมดุล – ควรมีกระดูกแข็งแรง รูปร่างได้สัดส่วน ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป
✔ กระตือรือร้นและเป็นมิตร – ไม่ซึม หรือขี้กลัวจนเกินไป
🚨 ข้อควรระวัง:
❌ กระต่ายที่ขนร่วงผิดปกติ อาจมีปัญหาสุขภาพ
❌ กระต่ายที่มีจมูกแฉะ หรือจามบ่อย อาจมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
❌ กระต่ายที่ก้าวร้าวมากผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของความเครียดหรือปัญหาทางพันธุกรรม
4. แหล่งซื้อกระต่ายที่น่าเชื่อถือ
✅ ฟาร์มที่ได้รับการรับรองจากสมาคมที่ – ควรซื้อจากฟาร์มหรือผู้เพาะพันธุ์ที่มีชื่อเสียงและปฏิบัติตามมาตรฐานการเลี้ยงดูที่ดี ในประเทศไทยจะมี
สมาคมผู้พัฒนาพันธุ์กระต่าย Rabbit Breeder Association-Thailand
✅ งานประกวดกระต่าย – เป็นแหล่งที่คุณสามารถพบกระต่ายสายพันธุ์แท้ที่มีคุณภาพสามารถติดตามงานประกวดได้ที่เพจสมาคมต่างๆ
🚫 หลีกเลี่ยงการซื้อจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ตลาดสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจมีกระต่ายที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น งานที่นำกระต่ายมาขายแบบใส่กรงรวมๆกัน
5. ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการเลี้ยงกระต่าย
ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรเตรียมงบประมาณสำหรับดูแลกระต่ายอย่างเหมาะสม
รายการค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (บาท)
ค่ากระต่าย ( ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์, เกรด, สี ) 500+
กรง 200+
อุปกรณ์ให้อาหารและน้ำ 200+
อาหารและหญ้าแห้ง 500 - 1,000 ต่อเดือน
ค่าดูแลสุขภาพ ( วัคซีน, ตรวจสุขภาพ ) 500 - 3,000 ต่อปี
🔹 งบประมาณโดยรวม: ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 2,000+ บาท และค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณ 300+ บาท
สรุป
✅ การเลือกซื้อกระต่ายตามมาตรฐาน ARBA จะช่วยให้คุณได้กระต่ายที่มีคุณภาพดี สุขภาพแข็งแรง และมีนิสัยที่เหมาะสมกับการเลี้ยง
✅ ตรวจสอบสุขภาพก่อนซื้อ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและโรคที่อาจเกิดขึ้น
✅ เลือกแหล่งซื้อที่เชื่อถือได้ เช่น ฟาร์มที่ได้รับการรับรอง หรืองานประกวดกระต่าย
📌 หากคุณกำลังมองหาคู่มือการดูแลกระต่ายเพิ่มเติม อย่าลืมติดตามบทความอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของเราที่นี่ Anixotic 🐰✨
เด็กๆพร้อมย้ายบ้านจากฟาร์มของเราสามารถเข้าชมได้ที่ >>> https://www.repttown.com/stores/s/6208f8a6627da1804d2bf678?store=true
บทความอื่นๆเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงกระต่ายและสัตว์ฟันแทะอื่นๆ >>> https://tales.repttown.com/?search=author:Anixotic
เขียนโดย Theme Anixotic และ CEO & Co-founder Repttown